เคล็ดลับการใช้แอร์ในช่วงฤดูร้อน
เคล็ดลับการใช้แอร์ในช่วงฤดูร้อน
เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายน-พฤษภาคมทีไร เป็นอันต้องนึกถึงอากาศที่ร้อนอบอ้าวราวกับอยู่ใกล้ปล่องภูเขาไฟยังไงยังงั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากหากจะต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยที่ผิวกายไม่ได้สัมผัสแอร์เลย ท่ามกลางอุณหภูมิที่พุ่งสูงเกินกว่า 36 องศาเซลเซียสในแต่ละวัน บางวันพุ่งขึ้นไปแตะ 40 องศาเซลเซียสเลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าร้อนสุด ๆ สำหรับอุณหภูมิในช่วงกลางวัน แต่ถ้าอยู่ที่ทำงานก็คงไม่ได้เป็นปัญหามากนัก เปิดแอร์ให้ฉ่ำที่ออฟฟิศ ก็พอช่วยให้คลายร้อนไปได้มาก แต่ถ้าอยู่ที่บ้านแล้วจะเปิดแอร์ให้เย็นแบบเดียวกับที่ออฟฟิศ หลายคนคงต้องกังวลกับค่าไฟที่เกิดจากการใช้แอร์เป็นแน่
มีหลายวิธีที่เป็นการช่วยลดภาระการทำงานของตัวแอร์คอมเพรสเซอร์ และทำให้แอร์คอนดิชันเนอร์ของเราทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่การปิดกั้นแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้องของเราในตอนกลางวันให้มิดชิด ใช้ผ้าม่านที่ปิดกั้นแสงได้ดีปิดหน้าต่างไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมอุณหภูมิความร้อนภายในห้อง ซึ่งนั่นจะทำให้แอร์ของเราต้องทำงานหนักเกินกว่าปกติ ในการคลายความร้อนและเพิ่มระดับความเย็นภายในห้องนั้น ๆ
การเปิดพัดลมเพื่อไล่ความร้อนก่อนที่จะเปิดแอร์ ก็เป็นอีกวิธีที่เหมาะเหมือนกัน ประเภทของพัดลมที่ดีที่สุดคือพัดลมเพดาน เลิกงานกลับบ้านมาในตอนเย็นหรือค่ำ แง้มหน้าต่างไว้สักหน่อย แล้วเปิดพัดลมเพดานทิ้งไว้สัก 10-15 นาทีแล้วเข้าไปอาบน้ำ เสร็จแล้วออกมาค่อยเปิดแอร์ อุณหภูมิจะเย็นฉ่ำเร็วกว่าปกติ ส่วนใครจะใช้พัดลมแบบตั้งพื้นก็ได้ตามสะดวก เปิดให้ส่ายไปซ้ายขวาทิ้งไว้ก็ได้เหมือนกัน แต่ถ้าพัดลมที่ตัวเล็ก ๆ ก็คงไม่จำเป็นนัก
ส่วนอุณหภูมิของแอร์ที่เหมาะในหน้าร้อน สำหรับในตอนกลางคืน ความจริงแล้วเปิดที่อุณหภูมิ 25-26 องศาเซลเซียสก็เพียงพอแล้ว เพราะถ้าเปิดให้เย็นมาก ๆ ร่างกายอาจปรับตัวกับอุณหภูมิที่อยู่ข้างนอกไม่ทัน จนส่งผลให้เราไม่สบายได้ หรือบางคนอาจจะใช้วิธีเปิดให้เย็นฉ่ำเลยแล้วลากยาวไปถึงตี 4 ตั้งเวลาไว้ให้ปิดโดยอัตโนมัติ พอ 6 โมงเช้าก็ตื่นลุกไปทำงาน ก็สามารถทำได้เช่นกันในกรณีที่เราเป็นคนที่นอนหลับสนิทพอที่จะไม่ตื่นขึ้นมาก่อนนาฬิกาปลุก
อีกเรื่องนึงที่อยากแนะนำไว้ ก็คือการรับมือก่อนที่จะเข้าหน้าร้อนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการล้างแอร์ให้เรียบร้อยตั้งแต่เดือนมีนาคม ก่อนที่จะเข้าสู่หนึ่งในช่วงที่ร้อนที่สุดของปีในเดือนเมษายน เพื่อไม่ให้แอร์ของเราทำงานหนักจนเกินไป จนส่งผลให้ตัวเลขค่าไฟพุ่งสูงจนกระทบกับเงินในกระเป๋าสตางค์ของเรา และกระทบต่ออารมณ์ในการทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่างดูหนังหรือการลุ้นบอลสดที่ www.sbobett.com
